วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2561

โฟเบีย

     โฟเบีย เป็นอาการทางประสาทอย่างหนึ่งที่เรียกว่าภาวะ "วิตกกังวล" อันเกิดจากสิ่งที่ตนเองกลัว เช่น แมงมุม ของที่แหลมคม หรือความสูง ซึ่งคนปกติก็อาจกลัวของเหล่านี้ แต่ไม่ได้กลัวมากถึงขนาดแสดงอาการออกมา เช่น

     คนทั่วไปเห็นมีด ก็แค่มองมันเฉยๆ รู้ว่ามันอันตราย แต่จะไม่กลัวจนกว่าจะมีคนหยิบมีดหันเข้ามาเรา ซึ่งเป็นอาการกลัวปกติ

    แต่คนที่มีอาการ โฟเบีย จะกลัวสิ่งต่างๆ ทั้งๆ ที่สิ่งเหล่านั้นยังไม่ได้ทำอะไร แค่เห็นมีดก็กลัว และไม่ใช่แค่ถอยหนีอย่างเดียว แต่อาจแสดงอาการหายใจไม่ถนัด หัวใจเต้นแรง รู้สึกปั่นป่วนในท้อง บางรายอาจมีอาการหนักมากถึงขั้นเป็นลม หรือเสียสติไปเลย

    อาการกลัวแบบนี้มักเกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็ก อาจเป็นเพราะมีเหตุการณ์ใดที่มากระทบจิตใจของผู้ป่วยทำให้เกิดความกลัวแต่นั้นมา
        มาลองสังเกตดูดีกว่าว่าเรามีอาการโฟเบียดังต่อไปนี้บ้างหรือเปล่า

1. Arachnophobia (อะรากโนโฟเบีย) อาการกลัวแมงมุม เป็นอาการที่พบเห็นได้ในทั่วไป โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิงจะมีแนวโน้มเป็นมากกว่าผู้ชาย

2. Ophidiophobia (โอฟิดิโอโฟเบีย) อาการกลัวงู นี่ก็พบเห็นได้บ่อยในกลุ่มผู้หญิงและเด็กเช่นกัน

 รู้จัก "โฟเบีย" ขั้นกว่าของความกลัว ที่หลายคนอาจเป็นอยู่โดยไม่รู้ตัว

3. Acrophobia (อะโครโฟเบีย) อาการกลัวความสูง 1 ใน 20 คนจะมีอาการแบบนี้ ซึ่งนับว่าเป็นอาการกลัวยอดนิยมก็ว่าได้ คนที่มีอาการนี้ไม่ใช่แค่ยืนเสียวบนที่สูงนะคะ แต่ต้องมีอาการคลื่นไส้ เวียนหัว ใจเต้นแรงเวลาอยู่บนที่สูง หรือแม้แต่เดินข้ามสะพานกันเลย

4. Xenophobia (ซี โนโฟเบีย) อาการกลัวคนแปลกหน้า เช่น เห็นคนต่างชาติก็จะกลัว รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่ออยู่ใกล้ และหลีกเลี่ยงไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์ด้วย นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเวลาอยู่ในสถานการณ์ที่เรามองไม่เห็น เช่น กลัวแม่น้ำที่เป็นสีเขียวทึบ เนื่องจากมองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ใต้ล่าง หรือเจอวัตถุแปลกปลอมที่ไม่รู้ว่าคืออะไร

 รู้จัก "โฟเบีย" ขั้นกว่าของความกลัว ที่หลายคนอาจเป็นอยู่โดยไม่รู้ตัว

5. Claustrophobia (คลอสโตรโฟเบีย) อาการกลัวที่แคบหรือที่ปิด เช่น ห้องเก็บของใต้บันได ลิฟต์ เครื่องบิน ถ้ำ อุโมงค์ อาจเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น ตอนเด็กเคยถูกขังในที่แคบ คนที่เป็นโรคหวาดระแวงมักมีอาการกลัวที่แคบผสมอยู่ด้วย

6. Trypanophobia (ทริปาโนโฟเบีย) อาการกลัวเข็ม ไม่ใช่แค่กลัวเพราะมันเจ็บ แต่แค่เห็นก็กลัวจนเกือบเป็นลมแล้ว อาจมีผลมาจากตอนเด็กเคยโดนเข็มแทงเจ็บจนจำฝังใจ หรือโดนเตือนบ่อยๆ ว่าให้ระวังเข็ม มันอันตราย ประชากรกว่า 10% ของโลกมีอาการแบบนี้ค่ะ

7. Hemophobia (ฮีโมโฟเบีย) อาการกลัวเลือด แค่เห็นเลือดก็จะเป็นลม ใจเต้น หรืออยากอาเจียน คนที่มีอาการนี้หนักมากอาจถึงขั้นไม่ยอมดูภาพยนตร์แอ็กชั่นฆ่ากันเลือดสาด หรือแม้แต่ไปหาหมอฟัน

 รู้จัก "โฟเบีย" ขั้นกว่าของความกลัว ที่หลายคนอาจเป็นอยู่โดยไม่รู้ตัว

8. Nyctophobia (นิกโตโฟเบีย) อาการกลัวความมืด พบมากในวัยเด็ก เนื่องจากเมื่อปิดไฟ เด็กมักจะจินตนาการว่ามีอะไรน่ากลัวอยู่ในความมืด (พี่ก็เคยเป็น) ในรายที่มีอาการหนักมากอาจถึงขั้นไม่ยอมให้ปิดไฟเวลานอน หรือไม่กล้าออกนอกบ้านตอนกลางคืน

9. Phasmophobia (ฟาสโมโฟเบีย) อาการกลัวผี จะมีอาการคล้ายกับคนที่กลัวความมืด นั่นคือไม่กล้านอนปิดไฟ ไม่กล้าออกจากบ้านตอนกลางคืน ไม่กล้าอยู่คนเดียว มักจินตนาการว่ามีผีอยู่ ทำให้ใจเต้นแรงและหายใจไม่ออก

 รู้จัก "โฟเบีย" ขั้นกว่าของความกลัว ที่หลายคนอาจเป็นอยู่โดยไม่รู้ตัว

10. Philophobia (ฟิโลโฟเบีย) อาการกลัวความรัก ไม่เชิงว่าเป็นคนที่ไม่อยากมีความรักค่ะ แต่คนกลุ่มนี้จะแสดงอาการไม่อยากผูกมัดในความรักเสียมากกว่า เพราะกลัวเสียใจ กลัวสูญเสีย คนดังที่มีอาการนี้ก็เช่น ควีนอลิซาเบธที่ 1 ที่แม้จะมีคนมาจีบเยอะ (และก็มีคบหากัน) แต่ก็ไม่ยอมลงเอยกับใคร แถมประกาศว่าจะแต่งงานกับประเทศอังกฤษเสียอีก

 รู้จัก "โฟเบีย" ขั้นกว่าของความกลัว ที่หลายคนอาจเป็นอยู่โดยไม่รู้ตัว

11. Neophobia (นีโอโฟเบีย) อาการกลัวนวัตกรรมใหม่ๆ มักพบในกลุ่มคนเฒ่าคนแก่ของเรา และอาจพบในคนที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงค่ะ คนที่มีอาการนี้จะหลีกเลี่ยง ไม่ยอมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และมีแนวโน้มจะเป็นคนหัวโบราณ อนุรักษ์นิยมมากๆ

12. Nomophobia (โน โมโฟเบีย) อาการกลัวการขาดโทรศัพท์ น่าจะเป็นอาการปกติของคนในยุปัจจุบันที่ห่างจากสมาร์ทโฟนไม่ได้เลย คนที่มีอาการแบบนี้จะรู้สึกไม่สบายใจเมื่อโทรศัพท์มือถือไม่ได้อยู่ใกล้ตัว หรือรู้สึกไม่ปลอดภัยแค่เพราะโทรศัพท์แบตฯ หมด

13. Disposophobia (ดิส โปโซโฟเบีย) อาการกลัวการทิ้งสิ่งของ คือไม่สามารถทิ้งอะไรได้แม้แต่ชิ้นเดียว หรือกลัวการสูญเสียสิ่งของ เก็บหมดแม้กระทั่งตั๋วรถเมล์จนของเต็มบ้าน คนที่มีอาการกลัวแบบนี้มักเป็นคนที่ไม่ชอบเข้าสังคม ชอบอยู่คนเดียว

14. Trypophobia (ทริโปโฟเบีย) อาการกลัวรู สำหรับคนธรรมดาทั่วไปถ้าเห็นอะไรที่มีรูเยอะๆ ติดๆ กัน เช่น ฝักบัว ก็คงแค่ขนลุก ไม่อยากมอง แต่คนที่มีอาการกลัวมากๆ อาจถึงขั้นเป็นลมหมดสติได้เลย

 รู้จัก "โฟเบีย" ขั้นกว่าของความกลัว ที่หลายคนอาจเป็นอยู่โดยไม่รู้ตัว

15. Hypnophobia (ฮิปโนโฟเบีย) อาการกลัวการนอนหลับ คนที่มีอาการแบบนี้มักนอนไม่หลับ อาจหลับได้เพียงชั่วเวลาสั้นๆ เนื่องจากอาจมีประสบการณ์เลวร้ายเกี่ยวกับการนอน เช่น ฝันร้าย หรือเกิดเรื่องร้ายขณะหลับ อาการนี้ถือว่าเป็นอันตรายต่อร่างกายค่ะ เพราะแม้จะได้นอนเพียงชั่วเวลาสั้นๆ แต่การไม่ได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่มติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้เสียชีวิตได้เลย

16. Heliophobia (เฮลิโอโฟเบีย) อาการกลัวแสง ไม่ว่าจะแสงอาทิตย์หรือแม้แต่แสงไฟ ไม่ได้กลัวเพราะกลัวดำนะคะ แต่กลัวจนถึงขั้นที่ไม่กล้าออกไปไหนมาไหนตอนกลางวัน หรือสัมผัสกับแสงจ้า คนที่มีอาการแบบนี้ต้องระวังค่ะ เพราะคนเราสร้างวิตามินดีจากการได้รับแสงแดด ต้องกินวิตามินเสริมนะ

17. Bathophobia (เบโธโฟเบีย) อาการกลัวความลึก หรือกลัวอะไรที่ดูลึกลงไปเช่น ใต้ทะเลลึก ในอุโมงค์ ในหุบเขา

 รู้จัก "โฟเบีย" ขั้นกว่าของความกลัว ที่หลายคนอาจเป็นอยู่โดยไม่รู้ตัว

18. Didaskaleinophobia (ดิดาสคาเลโนโฟเบีย) อาการกลัวโรงเรียน มักเกิดกับเด็กอายุ 4-6 ขวบ ซึ่งเป็นวัยที่ต้องจากบ้านไปอยู่โรงเรียน ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย เด็กบางคนอาจแค่แสดงอาการร้องไห้งอแง แต่เด็กบางคนแค่ได้ยินหรือนึกภาพก็อาจทำให้เกิดอาการหายใจแรง หอบและเป็นลมได้ (พี่รู้ว่าหลายคนเริ่มคิดว่าฉันอาจจะมีอาการแบบนี้ แต่การไม่อยากไปโรงเรียนกับการกลัวโรงเรียนคนละเรื่องกันนะจ๊ะ)

19. Katsaridaphobia (คาทซาริดาโฟเบีย) อาการกลัวแมลงสาบ อันนี้พี่เป็นอยู่ คือเห็นแมลงสาบแล้วกรีดร้อง ควบคุมตัวเองไม่ได้ หายใจแรง ถ้าเกิดแมลงสาบเข้ามาใกล้จะถอยหนีอย่างรวดเร็วมาก และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ (พี่เคยวิ่งออกจากห้องน้ำเพราะแมลงสาบบินเข้ามา เกือบลื่นหัวแตกมาแล้ว)

20. Enochlophobia (อีนอโคลโฟเบีย) อาการกลัวที่ๆ มีคนเยอะ ไม่ใช่แค่รำคาญคนเยอะ แต่คนที่มีอาการแบบนี้คือกลัวคนเยอะด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น กลัวจะไม่ได้ยินเสียง กลัวถูกรุกล้ำพื้นที่ของตนเอง หรือกลัวสูญเสียการมองภาพกว้างเนื่องจากคนรายล้อมอยู่เยอะ ทำให้มองอะไรได้ยาก ความกลัวจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัว เหงื่อออก ใจเต้นแรง และอาจเป็นลมได้


อ้างอิง : https://goo.gl/2mqhwR

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น